CHEWA จับมือ Satang Pro รับ 3 สกุลเงินดิจิทัลซื้อบ้าน-คอนโดฯ - ลุยซื้อที่ดินสร้าง 2 โครงการใหม่ ปี 65

01 ธันวาคม 2564


บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า บริษัทจับมือกับ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการ Satang Pro เว็บเทรดรายใหญ่ของประเทศไทยตอกย้ำความนิยมของสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) เพื่อให้ตอบโจทย์กับการพัฒนาธุรกิจอย่างครอบคลุม รองรับการใช้เหรียญในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชีวาทัยได้แล้ว โดยสามารถนำมาใช้ชำระแทนเงินสดที่ชีวาทัย ได้ทั้ง 3 สกุลหลัก ได้แก่ Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) และ Tether (USDT)

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ CHEWA กล่าวว่า จากกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยี แสดงให้เห็นว่าวิถีการลงทุนในทรัพย์สินของคนยุคดิจิตอลได้เปลี่ยนไป โดยยอมรับการใช้สกุลเงินดิจิทัลกันมากขึ้น ซึ่งชีวาทัยมีนโยบายส่งเสริมการใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดมาโดยตลอด จึงเกิดความร่วมมือกับทาง "Satang Pro" พัฒนาช่องทางการนำสินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency) มาใช้ชำระเงินสำหรับการซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียมทุกโครงการของชีวาทัย และการจ่ายค่าส่วนกลางโครงการผ่าน Wallet ของ Satang Pro เพื่อเพิ่มช่องทางให้กับลูกค้าในแง่ของการจ่ายเงิน นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของบริษัทฯ ที่เป็นการปรับตัวสู่สังคมแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อรองรับสิ่งใหม่ในอนาคต

นายสรัล ศิริพันธ์โนน กรรมการผู้จัดการ สตางค์ คอร์ปอเรชั่น และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีด้านบล็อกเชน กล่าวว่า บริษัทเห็นถึงกระแสความนิยมของสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) จึงพัฒนา Satang Pro เว็บเทรดในไทยเป็นรายแรกๆ ของประเทศไทย

และในโอกาสนี้ จึงได้จับมือกับชีวาทัยเพราะแนวคิดด้านการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดที่เหมือนกัน และด้วยการพัฒนาของ Satang Pro ที่มีระบบรองรับการใช้จ่ายคริปโทเคอร์เรนซี่ และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ที่เน้นรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งาน รวมถึงเจ้าหน้าที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทุกรายมีขั้นตอนที่สะดวกกว่าและใช้เวลารวดเร็วกว่าการโอนเงินในสกุลปกติ คาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากการร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่4/2564 จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดแคมป์คนงานได้ตามปกติ ประกอบกับบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) จำนวน 1,759 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามารับรู้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายจำนวนหนึ่งด้วย แต่อย่างไรก็ตามยอมรับว่ารายได้ปีนี้อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 2,500 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมแล้วที่ 1,601.05 ล้านบาท แต่จะเติบโตขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,643.32 ล้านบาท

สำหรับ Backlog มูลค่า 1,759 ล้านบาท แบ่งเป็น Backlog จากโครงการคอนโดมิเนียม 1,545 ล้านบาท คิดเป็น 88% ของ Backlog ทั้งหมด ส่วนอีก 214 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12% เป็น Backlog จากโครงการแนวราบ ซึ่ง Backlog ทั้งหมดจะทยอยรับรู้ในไตรมาส 4/2564 ประมาณ 440 ล้านบาท ส่วนที่เหลือประมาณ 1,300 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปี 2565

ขณะที่ในปี 2565 มีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,583 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการ ชีวาทัย ปิ่นเกล้า มูลค่าโครงการ 1,589 ล้านบาท และโครงการ ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 (เฟส 2) มูลค่าโครงการ 994 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการ มียอดขายรวมกันแล้วกว่า 1,300 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบได้ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 เป็นต่นไป

ทั้งนี้บริษัทได้วางงบลงทุนสำหรับการซื้อที่ดินในปี2565 ไว้ที่ราว 600-700 ล้านบาท เพื่อใช้ก่อสร้าง โครงการใหม่ โครงการแนวราบ จำนวน 1 โครงการ และ คอนโดมิเนียม จำนวน 1 โครงการปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ขาย โดยคาดจะสามารถวางมันจำที่ดินได้ภายในไตรมาส 1/2564 และยังคงเดินหน้าซื้อที่ดินใหม่ๆ เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง

ที่มา : today.line.me : Moneyclub , today.line.me : อินโฟเควสท์ , infoquest , kaoupdate , ryt9 , facebook : TaladbanDee , facebook : บลูชิพ , facebook : Homezoomer , facebook : Money club , facebook : Chewathai PLC , blockdit , CHANGE into Magazine , change into , hooninside , splendor-biz , facebook : Clicknews.link , facebook : เกาะกระแสเศรษฐกิจ , facebook : Splendor-Biz , facebook : ส่องเศรษฐกิจ (Songsethakit) , bluechipthai , changeintomagazine.tumblr , clicknews.link , korkasaesatthakit , moneyclub.asia , taladbandee , siamturakij