บิ๊กแบรนด์ถล่มบ้านแพง 10 ล้าน ชิงลูกค้าบ้านเดี่ยว

20 December 2021


  

สถานการณ์โควิดกลายเป็นยุคทองผู้บริโภค สินค้า “บ้านเดี่ยว” มาแรงสุด เจาะเซ็กเมนต์ตลาดบนราคา 10 ล้านบาทดีมานด์สูงลิ่ว สำรวจ 10 บิ๊กแบรนด์อสังหาฯ ถมลงทุนดักลูกค้าเศรษฐีกระเป๋าหนัก ที่ดินมาตรฐานเริ่ม 50-140 วา ได้บ้านไซซ์ใหญ่เริ่ม 200 ตร.เมตรบวกลบ จับตา “ฟังก์ชั่น” ให้จุใจตั้งแต่ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จนถึง 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ ตอบโจทย์อยู่อาศัย 3 เจเนอเรชั่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์โควิดเป็นตัวเปลี่ยนโฉมบ้านเดี่ยวเซ็กเมนต์กลาง-บนในกลุ่มราคา 10 ล้านบาท และเป็นสินค้าพระเอกขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยพยุงผลประกอบการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ปี 2563-2564 เนื่องจากตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากำลังซื้อศักยภาพสูง ไม่มีปัญหาด้านการขอสินเชื่อ และมีดีมานด์พร้อมซื้อจำนวนมากหากสินค้าถูกใจ

ยุคโควิดบ้านสิบล้านฟังก์ชั่นเพียบ

ทั้งนี้ จากการสำรวจบิ๊กแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ 10 บริษัท ได้แก่ เอพี (ไทยแลนด์), เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น, แสนสิริ, พฤกษา เรียลเอสเตท, บริทาเนีย, เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย), แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, ควอลิตี้ เฮ้าส์ หรือคิวเฮ้าส์, พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และชีวาทัย พบว่า เซ็กเมนต์ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปเป็นกลุ่มราคาที่มีการแข่งขันสูง

โดยก่อสร้างบนที่ดินเริ่มต้น 50-140 ตารางวา ขนาดตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 185-419 ตารางเมตร แต่ที่น่าสนใจมากที่สุดเป็นเรื่องฟังก์ชั่นบ้านที่มีการแข่งขันกันนำเสนอดีไซน์สุดเร้าใจ โดยบ้าน 10 ล้านบาทยุคโควิดมีฟังก์ชั่นเริ่มต้นตั้งแต่ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ, 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ไปจนถึง 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ (ดูกราฟิกประกอบ) ซึ่งหมายถึงตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้ 3 เจเนอเรชั่นอย่างสบาย ๆ

FPT เจาะทะลวง 8-12 ล้าน

นายภวรัญชน์ อุดมศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการที่อยู่อาศัย (กรุงเทพและปริมณฑล) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) หรือ FPT เปิดเผยว่า ไตรมาสสุดท้ายปี 2564 บริษัทประเดิมส่งสินค้าบ้านหรู 3 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการแกรนดิโอ สาทร, แกรนดิโอ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 และแกรนดิโอ 2 วิภาวดีรังสิต มูลค่าโครงการรวม 5,700 ล้านบาท โดยช่วงเปิดพรีเซลมีผลตอบรับน่าพอใจ

รายละเอียด “แกรนดิโอ สาทร” สร้างบนที่ดินรวม 54 ไร่ จำนวน 189 หลัง, แกรนดิโอ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 มีขนาดพื้นที่ 28 ไร่ จำนวน 96 หลัง และแกรนดิโอ 2 วิภาวดี-รังสิต พื้นที่รวม 27 ไร่ จำนวน 112 หลัง นำเสนอแบบบ้านซีรีส์ใหม่สไตล์ new art deco 3 แบบบ้าน

เริ่มจาก 1.แบบบ้านลูเซิร์น (Luzern) พื้นที่ใช้สอย 297 ตารางเมตร ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ, double volume foyer, ห้องรับแขก, ห้องทานอาหาร, ห้องทำงาน, สระว่ายน้ำส่วนตัว, ห้องครัว, ห้องซักตากรีด, ห้องแม่บ้าน, ส่วนพักผ่อนชั้นบน, ห้องพระ,

2.มิลาโน (Milano) พื้นที่ใช้สอย 235 ตารางเมตร ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ ฯลฯ และ 3.แบบบ้านเซียนา (Siena) พื้นที่ใช้สอย 202 ตารางเมตร ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ ฯลฯ

“หลังจากที่บริษัทได้ปฏิวัติการออกแบบทาวน์โฮมสู่วงการเมื่อหลายปีก่อนจนประสบความสำเร็จ และปฏิวัติการออกแบบบ้านแฝดแบรนด์นีโอโฮมจนเป็นสินค้ายอดนิยมอีกครั้ง ปี 2564 บริษัทได้นำเสนอการออกแบบเพื่อพลิกโฉมบ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่หมดทุกจุด ทั้งการออกแบบภายนอกและภายในที่ได้พื้นที่ใช้สอยคุ้มค่าราคา 10-25 ล้านบาท จุดเน้นอยู่ที่ราคา 8-12 ล้านบาท มียอดซื้อเข้ามาหนาแน่นมากที่สุดในยุคโควิด” นายภวรัญชน์กล่าว

บริทาเนียตั้งต้น-เติบโตแข็งแกร่ง

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการแนวราบซึ่งเริ่มต้นเมื่อปี 2560 สร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เน้นทำเลพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ-ปริมณฑลที่มีอัตราการเติบโตของประชากรสูง อยู่ใกล้ระบบขนส่งมวลชน ใกล้ทางด่วนหรือถนนสายหลัก

รวมทั้งทำเลใกล้นิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะย่าน EEC-ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ขณะเดียวกัน ได้วางกลยุทธ์ขยายทำเลให้ครอบคลุมจังหวัดใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ เช่น ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ระยอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสงคราม อุดรธานี เป็นต้น และอยู่ระหว่างผลักดันเป็นบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมเทรดวันแรก 21 ธ.ค.นี้

ปัจจุบันบริษัทมี 4 แบรนด์บ้านแนวราบ ได้แก่ “ไบรตัน” บ้านแฝดกับทาวน์โฮมจับกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน (first jobber), “บริทาเนีย” บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม จับกลุ่มลูกค้าเริ่มต้นสร้างครอบครัว พนักงานบริษัท เจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก,

“แกรนด์ บริทาเนีย” บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับพรีเมี่ยมจับกลุ่มผู้บริหาร เจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดใหญ่ และ “เบลกราเวีย” บ้านเดี่ยวลักเซอรี่ จับกลุ่มลูกค้าผู้บริหารระดับสูง เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ และคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จเร็ว

ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทปิดการขายแล้ว 2 โครงการ รวมมูลค่า 2,028 ล้านบาท อยู่ระหว่างขาย 13 โครงการ มูลค่า 17,550 ล้านบาท อยู่ระหว่างพัฒนา 6 โครงการ ทยอยเปิดขายในไตรมาส 4/64 มูลค่า 4,300 ล้านบาท โดยปี 2565 วางแผนเปิดตัวอีก 9 โครงการ มูลค่ารวม 10,800 ล้านบาท

“เรามีจุดแข็งที่หลากหลายทั้งความเชี่ยวชาญการพัฒนาโครงการ ยึดความต้องการของผู้อาศัยเป็นศูนย์กลางในการศึกษาและวิเคราะห์เพื่อออกแบบบ้าน และการให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการภายใต้แนวคิด human centric มีนโยบายให้บริการหลังการขายตลอดช่วงอายุของการพักอาศัย หรือ long-life living after sales service

ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาให้บริการนัดหมายการแจ้งซ่อมและติดตามสถานะการซ่อมแซมผ่านโมบายแอปพลิเคชั่น ตลอดจนความเชี่ยวชาญการบริหารต้นทุน รวมถึงการสนับสนุนจากบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ซึ่งเป็นบริษัทแม่”

เอพีปั๊มยอดแนวราบ 3 หมื่นล้าน

นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า จากแผนธุรกิจการบริหารพอร์ตแนวราบที่แข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับความพร้อมที่จะปรับตัวอย่างรวดเร็ว ภายใต้พันธกิจ “EMPOWER LIVING” ส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่ลูกค้าสามารถเลือกได้

ส่งผลให้บริษัทสร้างยอดขายสุทธินิวไฮเกิน 30,100 ล้านบาท สูงกว่าแผนรายได้ที่ประมาณการไว้โดยเฉพาะสินค้าบ้านเดี่ยวที่ได้รับการตอบรับที่ดีในทุกระดับราคา โดยมียอดลูกค้าเข้าชมโครงการบ้านเดี่ยวเอพีเฉลี่ย 600 ครอบครัว/สัปดาห์ เพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2563

สำหรับไตรมาส 4/64 เอพีส่งท้ายปีด้วยการเปิดตัวแบบบ้าน 3 ทำเลดีไซน์ใหม่ภายใต้แบรนด์ “เซนโทร” (CENTRO) ตอบโจทย์การเริ่มต้นของครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างตรงจุด ได้แก่ เซนโทร ปิ่นเกล้า

มูลค่าโครงการ 1,620 ล้านบาท เนื้อที่รวม 59 ไร่ จำนวน 152 หลัง บนที่ดิน 100-170 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 250-389 ตร.เมตร ฟังก์ชั่นสูงสุด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ห้องรับแขก 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องแม่บ้าน (ห้องน้ำในตัว) 4 ที่จอดรถ พร้อมเรือนรับรอง ราคา 9.5-15 ล้านบาท

เซนโทร ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท บนเนื้อที่ 37 ไร่ จำนวน 137 หลัง ที่ดิน 50.8-118 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 164-289 ตร.เมตร เพียง 3 กม. ใกล้รถไฟฟ้า (สายสีแดง) สถานีดอนเมือง ราคาเริ่มต้น 7.99-12 ล้านบาท

และ “เซนโทร บางนา-ศรีนครินทร์” มูลค่าโครงการ 840 ล้านบาท บนเนื้อที่ 23 ไร่ จำนวน 105 หลัง ที่ดิน 50.2-83 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173-252 ตร.เมตร ราคา 7.5-15 ล้านบาท

นางพิมพรรณ ปรีชานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารแบรนด์และพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยว เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวคิดการพัฒนาแบบบ้านดีไซน์ใหม่แบรนด์เซนโทร เป็นการตีโจทย์ใหม่บนจุดแข็งของการออกแบบบ้านเดี่ยวเอพีในเรื่อง functional space ให้เข้ากับแนวคิด next normal ตอบรับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดจากสถานการณ์โควิด มี 3 จุดขายหลัก

  1. ขยายพื้นที่เป็นสองเท่า ดีไซน์บ้านหน้ากว้างสูงสุด 25 เมตร และเพิ่มฟรีสเปซที่ชั้น 2 ด้วยเทคนิคดีไซน์พื้นที่แอลเชป L-shape ปรับเป็นพื้นที่พักผ่อนรองรับชุดโซฟา 4-6 ที่นั่ง ในส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร 10 ที่นั่ง ที่จอดรถสูงสุด 4 คัน
  2. ดีไซน์ส่วนพักผ่อนออกจากพื้นที่ส่วนกลางในบ้าน แยกส่วนห้องอเนกประสงค์ที่ชั้น 1 (มีห้องน้ำในตัว) ปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุหรือห้องทำงาน
  3. สเปซฟังก์ชั่นแบ่งครบเป็นสัดส่วน ดีไซน์ห้องนอนใหญ่พร้อม walk-in closet ห้องน้ำฟังก์ชั่น his & her พร้อมอ่างอาบน้ำ ห้องนอนที่ 2 และ 3 มีห้องน้ำในตัวทุกห้องนอน พื้นที่สีเขียวพร้อมมุมพักผ่อนส่วนตัว ได้รับแรงบันดาลใจจาก botanic garden ให้โอบล้อมตัวบ้าน

พฤกษาฯบุกหนัก “เดอะปาล์ม”

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เทรนด์บ้านหรูมีดีมานด์รองรับสูงมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทเพิ่งเปิดตัวโครงการใหม่แบรนด์ “The Palm บางนา-วงแหวน “ มูลค่าโครงการ 1,340 ล้านบาท

บนทำเลที่ดีที่สุดของถนนวงแหวนรอบนอกถนนสุขาภิบาล 2 ใกล้นิคมอุตสาหกรรม Gemopolis ราคาเริ่มต้น 12-25 ล้านบาท โดยตั้งอยู่ภายในโครงการ Pruksa Avenue โดยการอีเวนต์เปิดพรีเซลรอบ VIP สามารถทำยอดขายทันที 160 ล้านบาท

จุดเด่นนอกจากมีโครงการบ้านของพฤกษาฯแล้ว ยังมี ViMUT Health Center ศูนย์สุขภาพครอบคลุมบริการที่หลากหลาย อาทิ ศูนย์กายภาพ ศูนย์ดูแลและบริบาลผู้สูงอายุ รองรับการอยู่อาศัยของลูกบ้านพฤกษาฯ และบุคคลทั่วไปในบริเวณใกล้เคียงด้วย

รายละเอียด The Palm บางนา-วงแหวน ออกแบบภายใต้แนวคิด pieces of a luxury mastery พบกับ 3 แบบบ้านซีรีส์ใหม่บนพื้นที่โครงการ 35 ไร่ ที่ดินเริ่มต้น 70-190 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 280-452 ตร.เมตร ที่จอดรถสูงสุด 4 คัน จำนวน 92 ยูนิต

พร้อมระบบ home automation และการออกแบบที่ใส่ใจผู้สูงอายุภายในบ้าน มีห้องนอนชั้นล่างพร้อมระเบียงส่วนตัว สวนผู้สูงอายุ สนามเด็กเล่น พื้นที่สวนส่วนกลางตอบรับทุกช่วงวัย คลับเฮาส์ สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ พร้อม jacuzzi ฟิตเนส และ coworking space ระบบรักษาความปลอดภัยเหนือระดับ และ The Palm Concierge บริการผู้ช่วยส่วนตัวในทุกขั้นตอนของการอยู่อาศัย

ยักษ์อสังหาฯแข่งคับคั่ง

ผู้สื่อข่าวสำรวจเพิ่มเติมพบว่า บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดขายแบรนด์มัณฑนา Westgate พื้นที่รวม 93 ไร่เศษ 293 แปลง ที่ดินเริ่มต้น 58-120 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 185-335 ตร.เมตร มีให้เลือกทั้ง 4 แบบบ้าน ได้แก่ “Continuo-Multiply-Expandio-Numurio” ราคาเริ่มต้น 10-20 ล้านบาท

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดขายโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ บนพื้นที่รวมเกือบ 30 ไร่ จำนวน 103 หลัง มี 3 แบบบ้านให้เลือก ได้แก่ “Calm-Shade-Captivate” พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 231-360 ตร.เมตร ราคาเริ่มต้น 10-20 ล้านบาท

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดขายโครงการบุราสิริ วงแหวน-อ่อนนุช เนื้อที่รวม 96 ไร่ จำนวน 388 แปลง เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนที่ดิน 53-140 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 113-223 ตร.เมตร มีแบบบ้าน 6 แบบ ได้แก่ “Pear-Oval-Marquise-The Radiant-Asscher-Emerald” ราคาเริ่มต้น 9.99-15 ล้านบาท

บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) เปิดขายชีวารมย์ นครอินทร์ เนื้อที่รวม 40 ไร่ จำนวน 139 หลัง มีแบบบ้าน 3 แบบ ได้แก่ “Estuary-Verdant-Sierra” บนที่ดินเริ่มต้น 52-70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190-290 ตร.เมตร ราคา 9.9-18 ล้านบาท

บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดขายโครงการเพอร์เฟค เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 77-สุวรรณภูมิ มี 3 แบบบ้านให้เลือก ได้แก่ “Lorena-Luciana-Lucia” พื้นที่ใช้สอย 190-230 ตร.เมตร ราคา 10-15 ล้านบาท ระบบรักษาความปลอดภัย double gate security แยกส่วน residence และ visitor security มาตรฐานความปลอดภัยจาก SECOM ระบบ pass card เข้า-ออกโครงการ พนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชม. เป็นต้น

ที่มา todayline, prachachat, reic, msnlifestyle